‘อย่ามัวแต่ทำเพื่อความสุขคนอื่น จนลืมใช้ชีวิตของตัวเอง’ ความในใจของวัยเก๋า ที่ชีวิตซีซันสองเพิ่งเริ่มต้น
“ถึงวัยเลี้ยงหลาน” อาจจะใช่สำหรับวัยเกษียณบางคน แต่อีกตั้งหลายคน ชีวิตเพิ่งเริ่มต้นซีซันสอง บางคนเพิ่งได้กลับมาทำตามความฝัน บางคนใช้เวลาต่อจากนี้ปรนเปรอความสุขให้ตัวเอง และอีกหลายคนปล่อยจอย เพราะทำเพื่อคนอื่นมาแล้วค่อนชีวิต
“คนแก่ก็มีหัวใจ” สว. (ที่ย่อมาจากสูงวัย) บางคนพูดขึ้นมา แต่เรื่องจริงยิ่งกว่าคือทุกวัยก็มีหัวใจ หัวใจที่ถึงเวลากลับมาเต้นและสูบฉีดให้ตัวเอง ไม่ใช่คนอื่น
เราชวนไปสำรวจความสุขที่เพิ่งเริ่มขึ้นในชีวิตซีซันสอง จากผู้สูงวัยที่เราได้พูดคุยด้วยในงานมนุษย์ต่างวัย Talk 2023 ‘Out of the Box Aging’ จัดโดยเพจมนุษย์ต่างวัย และได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ชีวิตที่เหลือแต่ซาก ตากแดด รดน้ำ ดอกใบก็งอกงามได้อีกครั้ง
คือเรื่องราวของ ‘ยี’ วันเพ็ญ ชัยบุญญลักษณ์ นางแบบแฟชั่น ถ่ายแบบโฆษณา ถ่ายภาพนิ่ง วัย 58 ปี ที่ชีวิตซีซันสองเริ่มต้นอีกครั้งในวัย 57 ปี
ย้อนกลับไปวัยเด็ก ความฝันของเด็กหญิงวันเพ็ญคือนางแบบ โตขึ้นมาก็สานต่อด้วยการไปเดินสยามทุกวัน เน้นว่าทุกวัน แบรนด์แฟชั่นอันดับหนึ่งในใจตอนนั้น คือ โซดาป็อป
“ไปทุกวันจนเขารับสมัครพนักงานขาย ก็ไปสมัครจนได้เป็น เพราะคิดว่าโอกาสนางแบบคงใกล้เข้ามา”
แต่ใกล้ก็เหมือนไกล เพราะช่างภาพเอาแต่เดินมาบอกพนักงานขายว่า ถ้าเห็นใครหน่วยก้านดี ฝากขอเบอร์ให้หน่อยนะ
แล้วก็ยิ่งไกลออกไปอีกเมื่อสาวสายแฟชั่น ตัดสินใจแต่งงานตอนอายุ 21 ปี จากพนักงานขายก็เปลี่ยนอาชีพเป็นแม่บ้านโดยอัตโนมัติ และเนื้องานยิ่งเข้มข้นขึ้นตอนมีลูก
“ชีวิตเปลี่ยน โฟกัสที่ลูกหมด อาชีพเดียวที่สิงอยู่ในร่างคือแม่บ้าน สิงจนลูกโต จนลูกทำงาน”
พอลูกทำงาน จากบทบาทแม่ ยีก็กลับมาเป็นลูกอีกครั้ง พาพ่อแม่ไปหาหมอทุกเดือน ทำภารกิจนี้ติดต่อกันไม่ต่ำกว่าสิบปี จนพ่อและแม่จากไปตามความชราและอายุขัย
เป็นเวลาไล่เลี่ยกับที่อาหมุยก็มาจากไป อาหมุยคือสุนัขที่อยู่กันมาเป็นสิบๆ ปี เป็นหนึ่งในสองของสิ่งมีชีวิตในบ้าน เพราะสามีของยีมักไปทำงานต่างจังหวัด
“เป็นสามชีวิตที่ทำให้ตัวเองรู้สึกมีคุณค่า พอเขามาจากไป ชีวิตตอนนั้นเหลือแต่ซาก หายใจแห้ง”
ตื่นนอน กินข้าว อาบน้ำ ยีแทบจะทุกอย่างในห้องนอน ไม่สามารถลงมากิจวัตรเดิมๆ ชั้นล่างได้ เพราะมองไปทางไหน อาหมุยก็เคยอยู่ตรงนั้น
“กลับบ้านไม่เจอใคร เจอแต่กำแพง จนลูกโอนเงินให้ บอกให้แม่ออกไปใช้ชีวิต อย่าอยู่บ้าน เราก็พยายามดีดตัวเองออกไป แต่ไม่ไหว ไปซูเปอร์ก็เจอแต่แพมเพิร์สผู้ใหญ่ หรือไม่ก็อาหารหมา”
จนนั่งไถเฟซบุ๊กไปเพราะไม่อยากคุยกับใคร ยีไปเจอกับโพสต์ของเพื่อนที่โพสต์รูปแฟน และนั่นคือจุดยูเทิร์นกลับมาตามฝันครั้งใหญ่
“แฟนเพื่อนอายุ 50 กว่า แต่เขาสวยกว่าตอนอายุ 30 อีกนะ เราเลยขอนัดเจอ ครั้งนั้นแหละ เปลี่ยนชีวิตเลย”
นัดกันที่คาเฟ่ คนขอนัดไปถึงก่อนเวลา แล้วพบว่ามีทีมช่างภาพกำลังทำงานอยู่ที่ร้าน
“จู่ๆ น้องทีมงานเดินเข้าถามว่า ‘พี่ๆ เคยถ่ายแบบไหมครับ’ เราก็แกล้งเงียบๆ ไม่ตอบ แต่ในใจลิงโลดมาก แลกไลน์กัน จนหายไปหลายวัน น้องก็ไลน์มา น้องเป็นช่างภาพโมเดลลิ่ง”
น้องพิมพ์มาประโยคนี้ประโยคเดียว และคำตอบคือ yes
“วันเวลานี้ สถานที่นี้ บัดเจ็ตเท่านี้ พี่ว่างมั้ยครับ”
ในที่สุด ความฝันก็มาถึงแล้ว – ตอนนั้นอายุตามบัตรประชาชน คือ 57 ปี ยีตัดสินใจคว้าความฝันและสานต่อมันอย่างไม่หยุด ก่อนขึ้นเวทีงานมนุษย์ต่างวัย Talk 2023 ที่เพิ่งจบไป นางแบบสุดเปรี้ยวก็เพิ่งมาจากแคตวอล์ก Bangkok Fashion Week 2023
“คนเราต้องมีความฝัน อย่าทิ้งความฝัน ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน อยู่ที่เราจะปล่อยหรือคว้าไว้”
ก่อนจะเปรียบเทียบตัวเองช่วงก่อนหน้านั้นว่า เหมือนต้นไม้ที่ตายแล้ว แค่รอเวลา แต่พอได้ฝน มันเริ่มฟื้น เหมือนตัวเองเกิดใหม่ ใบดอกเริ่มงอกอีกครั้ง
“อะไรก็เป็นไปได้ในโลกที่ไม่แบ่งเพศแบ่งวัย อย่ามัวแต่ทำเพื่อความสุขคนอื่น จนลืมใช้ชีวิตเพื่อตัวเองนะคะ”
“ฉันจะสนุก และฉันก็มีความสุขในแบบนี้”
การเลือกหยิบเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส ออกไปเที่ยวตามแพลนที่วางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี เป็นวิถีชีวิตปกติของ ‘อุษา’ และ ‘รุจิวรรณ’ สองสาววัยเกษียณ ที่เป็นทั้งญาติและเพื่อนสนิทกัน
เหมือนอย่างชุดลายดอกที่สวมใส่มางานมนุษย์ต่างวัยวันนี้ ก็เป็นชุดที่พวกเธอใส่มาแมทช์กันหน้างานโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะการแต่งตัวสวยๆ ออกไปทำกิจกรรมหรือท่องเที่ยว เป็นความสุขของพวกเธอไม่ต่างกันกับวัยรุ่น
“เราชอบไปคาเฟ่ทุกสไตล์ ยิ่งร้านไหนที่มีจุดถ่ายรูปเยอะๆ เราก็จะมองหากันว่ามุมไหนสวย เวลาที่เราโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้รีวิวร้านคุณนะคะ เราโชว์ชุดเรา (หัวเราะ)”
นอกจากคาเฟ่ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ และตลาดเสื้อผ้ามือสอง ก็เป็นสถานที่ที่พวกเธอชอบไป
ก่อนหน้าชีวิตวัยเกษียณ สองสาวไม่เคยมีโอกาสได้แต่งตัวตามใจอยาก การทำตามหัวใจเพื่อความสุขของตัวเอง จึงเป็นแพลนในช่วงสูงวัยที่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้ไม่นาน และเป็นสิ่งที่อยากแนะนำให้กับทุกๆ คน
“เราวางแผนได้เลยว่าถ้าแก่ตัวลง เราอยากจะเป็นคนแก่ที่มีความสุขแบบไหน ก่อนหน้านี้ฉันอาจแต่งตัวสีเอิร์ธโทนเพราะมันเข้ากับวัยฉัน แต่พอเริ่มแก่ ฉันอยากใส่ทั้งสีแดง น้ำเงิน ฟ้า เราก็วางแผนได้ มันก็คือความสุขของเราอย่างหนึ่ง
“การทำกิจกรรมจะทำให้เราไม่รู้สึกแก่ เครียด หรือซึมเศร้า ผู้สูงอายุสามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเอง คนอื่นคิดว่าชุดเราสวยหรือไม่สวย เราไม่รู้ แต่ฉันรู้สึกว่าตัวเองสวยแล้ววันนี้ แล้วเราก็จะมีความสุข”
‘อาม่าแอคทีฟ’
เป็นฉายาที่ทุกคนมักจะเรียก ‘อาม่า’ สุธารัตน์ กิจติเวชกุล ผู้หญิงผมขาวท่าทางกระฉับกระเฉงคนนี้ เพราะดูเหมือนตัวเลข 76 จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวและการกินที่เธอรักเลย
ด้วยความชื่นชอบในวัฒนธรรมโบราณ และของกินหลากรสที่สามารถสะกิดต่อมรับรสภายในปาก นั่นทำให้ชุมชนและตลาดนัดตามจังหวัดต่างๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโปรด ที่อาม่าเดินทางไปในหลายครั้งๆ ต่อปี
“เราเป็นคนทำอาหารกินเองที่บ้านอยู่แล้ว เราก็อยากรู้ว่า ตัวเราจะชอบรสชาติอาหารนอกเหนือจากที่เราทำไหม แล้วถ้าชอบ เราจะทำเป็นไหม”
หากจะต้องเลือกสถานที่โปรดมาสักหนึ่งที่ ‘ราชบุรี’ เป็นคำตอบที่อาม่าบอกกับเรา
“ในราชบุรีที่เดียวคุณก็จะได้เรียนรู้ประเพณีเยอะมาก เพราะมีคนหลายกลุ่มอยู่ แล้วแต่ละท้องที่อาหารไม่เหมือนกัน เขาก็จะมีของขึ้นชื่อของแต่ละที่ ที่กินแล้วรู้สึกว่าบ้านเรามีแบบนี้ด้วยเหรอ แล้วทำไมเราเพิ่งมาเจอตอนแก่อย่างนี้”
การออกทริปกินในวัยเกษียณของอาม่า จึงไม่ได้เป็นแค่การเดินทางไปสัมผัสวัฒนธรรม หรือลิ้มรสอาหารเมนูใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียนรู้นอกสถานที่ ที่เธอสามารถเรียนอย่างแอคทีฟได้เรื่อยๆ ไม่มีวันหมดอายุ
เรื่องราวของอาม่า จึงเป็นเหมือนสิ่งที่ช่วยย้ำเตือนว่า การท่องเที่ยวไม่ใช่แค่กิจกรรมของวัยรุ่น แต่เป็นกิจกรรมสำหรับคนทุกวัย โดยเฉพาะคนสูงวัยที่พวกเขาเองก็ต้องการหาความสุขไม่แพ้กัน
“คนแก่ก็มีหัวใจนะ อยากเที่ยวเหมือนกัน อย่างน้อยออกไปเปิดหูเปิดตา ไม่ใช่ว่าเราไปเที่ยวแต่ห้าง มันไม่เห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลง
“ถ้าคุณมีโอกาสไปเที่ยวไหน ไปเลยค่ะ คุณก็จะได้เรียนรู้ว่าวัฒนธรรมแต่ละท้องที่ไม่เหมือนกันเลย ไปสัมผัสความอร่อย ความเป็นไทยๆ ของเรายังมีอีกเยอะที่น่าไปเที่ยว อาม่าเองก็ยังคิดจะไปเที่ยวอยู่เรื่อยๆ แหละค่ะ (หัวเราะ)” อาม่าชวนทุกคนไปเที่ยวทิ้งท้าย