8 นวัตกรรม ตัวช่วยผู้สูงวัยใช้ชีวิตบั้นปลายได้ง่ายขึ้น
ภายในปี 2065 องค์กรสหประชาชาติ (UN) คาดการณ์ว่า จำนวนประชากรของผู้ที่มีอายุสูงกว่า 65 ปี จะแซงหน้าจำนวนเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ขณะเดียวกัน อายุขัยเฉลี่ยของคนทั่วโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ปี 2019 อายุขัยเฉลี่ยของคนทั่วโลกอยู่ที่ 72.6 ปี ซึ่งคิดเป็น 2 เท่า นับตั้งแต่เก็บข้อมูลเมื่อปี 1950 ที่อายุขัยเฉลี่ยของคนทั่วโลกอยู่ที่ 45.7 ปีเท่านั้น
ดูเหมือนว่าความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์จะยืดอายุขัยของมนุษย์ออกไปเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่มีการจัดการที่ดีพอ อายุขัยที่เพิ่มขึ้น อาจหมายถึงการยืดระยะของอาการเจ็บป่วยทางกาย ใจ และสังคม ก็เท่านั้น
สุขภาพที่ดีจึงเป็นโจทย์ของผู้สูงอายุที่ไม่เพียงต้องอาศัยเทคโนโลยีการแพทย์เข้ามาช่วยดูแล แต่ยังรวมไปถึงเทคโนโลยีด้านอื่นที่จะสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งรายงานของ World Economic Forum (2021) สรุป 8 นวัตกรรม สำหรับยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้มีคุณภาพมากขึ้น
1. อิสรภาพทางการเงินและความมั่นคง
นอกจากการวางแผนเงินบำนาญตามระบบแล้ว เทคโนโลยีอาจช่วยในการวางแผนทางการเงินที่มีต้นทุนต่ำและเป็นส่วนตัว ซึ่งทำให้คนที่มีภูมิหลังทางเศรษฐกิจต่ำสามารถเข้าถึงการวางแผนเกษียณอายุได้
ตัวอย่างคือ ในปี 1999 Insurance & Pension Denmark เปิดตัวเว็บไซต์ PensionsInfo เพื่อให้แรงงานสามารถดูข้อมูลบัญชีและผลประโยชน์ที่ได้จากภาครัฐหลังเกษียณในที่เดียว เว็บไซต์ยังประเมินรายได้หลังเกษียณตามที่ผู้ใช้งานแต่ละคนคาดหวัง หากผู้ใช้งานพบว่ารายได้หลังเกษียณที่คาดการณ์ไว้ต่ำกว่าเป้าหมาย ก็สามารถเลือกออมเงินเพิ่มหรือเพิ่มระยะเวลาเกษียณได้ ในระหว่างอายุ 65-69 ปี ตามกฎหมายของเดนมาร์ก
ขณะที่แผนการเกษียณอายุแบบผสมผสานของเนเธอร์แลนด์ มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ด้านหนึ่งมีระบบรวบรวมเงินออมจากคนงานในหลายภาคอุตสาหกรรม และจ้างผู้ดูแลพอร์ตสำหรับการลงทุนโดยเฉพาะ อีกด้านหนึ่งยังจำลองรายได้ของเงินบำนาญแบบดั้งเดิม โดยกำหนดแผนการจ่ายเงินให้คนเกษียณและคู่สมรสเป็นรายเดือนตลอดชีพ ซึ่งภายใต้กฎหมายบำเหน็จบำนาญฉบับใหม่ สมาชิกจะสามารถถอนเงินได้สูงสุด 10 เปอร์เซ็นต์ ของยอดเงินคงเหลือ
ดังนั้น ระบบนี้จึงช่วยให้แน่ใจว่าผู้เกษียณอายุจะมีเงินใช้เพียงพอ และยังให้ผลตอบแทนเพิ่มเติมในรูปของเครดิตมรณกรรม (mortality credits) ซึ่งก็คือเงินออมคงเหลือของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว จะยังคงอยู่ในระบบและถูกนำไปแจกจ่ายให้ผู้ที่มีอายุยืนยาวที่สุด กล่าวคือ ผู้รับบำนาญที่มีอายุยืนยาวที่สุด คือผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด
2. AI และเครื่องมือตรวจหาโรคในระยะเริ่มต้น
การป้องกันโรคในอนาคตเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ทำให้คนสูงวัยมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพดี การตรวจหาสัญญาณความชราและปัจจัยเสี่ยงของโรคต่างๆ จึงมีความจำเป็น
ในขณะที่ระบบการรักษาโรคต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ทว่าการป้องกันโรคจะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลได้อย่างมาก ซึ่งปัจจุบันวิธีการแบบดิจิทัลเพื่อติดตามและตรวจหาโรคในระยะแรกได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เทคโนโลยีที่ใช้ AI ควบคู่กับการระบุข้อมูลทางชีวภาพ เช่น สรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ (electrophysiological) เพื่อตรวจการทำงานของสมอง เสียง การหายใจ หรือการไอ สามารถวินิจฉัยอาการที่พบได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งหากมีความเสี่ยงเป็นโรคร้าย ย่อมทำให้มีการจัดการ บรรเทา หรือป้องกันผลกระทบได้ดียิ่งขึ้น
3. พบหมอออนไลน์ ตรวจสุขภาพทันใจ
ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสามารถตรวจคัดกรองสัญญาณชีพผู้สูงอายุจากที่บ้านได้ โดยไม่ต้องใช้บุคลากรเฉพาะทาง หรือใช้เพียงอุปกรณ์เครื่องมือที่สามารถซื้อหาได้สำหรับตรวจจับสถานะสุขภาพ แต่ถ้าเกิดสภาวะฉุกเฉินก็สามารถติดต่อกับแพทย์ได้โดยตรง ฉะนั้น เทคโนโลยีที่ช่วยติดต่อ ติดตาม รวมถึงเชื่อมโยงระหว่างแพทย์และผู้สูงอายุ จะช่วยลดภาระบุคลากรทางการแพทย์และลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลงอย่างมาก
4. บริการดูแลผู้สูงวัยใกล้บ้าน
การเปลี่ยนแปลงการให้บริการด้านสุขภาพในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีองค์ประกอบหลักคือ ครอบครัวเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้เกิดบทสนทนาระหว่างคนในครัวเรือนและตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุได้โดยตรง เช่น แนวทาง ‘สูงวัยที่บ้าน’ (aging at home) ที่ผู้ดูแล ครอบครัว หรือแม้แต่คนขายประกัน ก็สามารถร่วมกันสร้างแผนการดูแลเฉพาะบุคคลได้ ซึ่งมีประโยชน์ต่อกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและมีศักยภาพในการลดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ในระยะยาว
ตัวอย่างคือ self-help clubs หรือชมรมช่วยเหลือตัวเองของผู้สูงวัย ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งของ HelpAge Global Network องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่มีกว่า 160 แห่ง ใน 90 ประเทศ สมาชิกชมรมจะมีการจัดกิจกรรมหลากหลาย เช่น ร้องเพลงและเต้นรำ ออกเงินกู้เล็กน้อย การตรวจวัดความดัน การบรรยายวิธีใช้สมาร์ตโฟน หรือกระทั่งการส่งอาสาสมัครช่วยเก็บเกี่ยวพืชผลสำหรับสมาชิกที่เป็นชาวไร่และล้มป่วย
5. ปกป้องความเสื่อมถอยของระบบประสาท
การสูญเสียการได้ยินเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับต้นๆ ของภาวะสมองเสื่อม และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการหกล้ม ความบกพร่องทางสติปัญญา การแยกตัวทางสังคม และผลเสียด้านสุขภาพอื่นๆ
ปัจจุบันนวัตกรรมทางการแพทย์มีการพัฒนาเครื่องช่วยฟังรุ่นใหม่ รวมถึงเครื่องช่วยฟังที่ควบคุมโดยสมอง โดยสามารถปกป้องเซลล์ขนของหูชั้นในไม่ให้เสื่อมสภาพตามวัยได้
6. เกมลับสมองให้คล่องแคล่ว
การฝึกการรู้คิด (cognitive functioning) และการฝึกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การเล่นเกมกระดาน การฝึกกิจกรรมเหล่านี้ต้องออกแบบใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้สูงอายุ การโต้ตอบที่เหมาะสม ทำให้ระบบรู้คิดยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันโรคเกี่ยวกับสมองได้
ตัวอย่างเช่น การจำลองประสบการณ์เสมือนจริงที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุและการใช้เกม (gamification) กระตุ้นหรือสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ ล้วนทำให้ผู้สูงอายุมีการโต้ตอบมากขึ้น นับเป็นการรักษาระบบรู้คิดในทางหนึ่งที่ได้ผล
7. เชื่อมต่อสังคมผู้สูงอายุบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
ความผูกพันทางสังคมและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นสองส่วนสำคัญของสุขภาพที่ดีและการเป็นผู้สูงวัย การเชื่อมโยงทั้งสองปัจจัยในการสนับสนุนผู้สูงวัย มีผลเชิงบวกต่อการแก้ปัญหาด้านสาธารณสุข เช่น ความเหงา ภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวล
เทคโนโลยีที่ดีจึงควรมีส่วนสำคัญต่อการเชื่อมโยงผู้สูงวัยกับทั้งสังคมและดิจิทัล เช่น ผู้สูงอายุที่สูญเสียการได้ยินหรือเป็นอัมพาต จำเป็นต้องใช้คุณสมบัติของหน้าจอสัมผัส เซ็นเซอร์ หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่บันทึกไว้ล่วงหน้า ฯลฯ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารกับเพื่อนและครอบครัวได้อย่างเสรี
8. บริการขนส่งฉับไว เข้าใจผู้สูงอายุ
การเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นอีกส่วนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าในชีวิตของผู้สูงอายุ เทคโนโลยีจึงจำเป็นต้องช่วยเพิ่มความมั่นใจและความเป็นอิสระให้กับพวกเขา
การอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ เริ่มต้นง่ายๆ จากการเลือกรถผ่านแอปพลิเคชันขนส่งที่สามารถเลือกคนขับที่ได้รับการฝึกฝนด้านการช่วยเหลือทางการแพทย์ขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้อย่างมั่นใจ เช่น ซื้อของชำ เยี่ยมเพื่อนและครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีชีวิตที่สมบูรณ์และเป็นอิสระมากขึ้น
ที่มา
- 8 tech innovations that support a healthy aging population
- 10 Innovations From Around the World to Help Deal With an Aging Population
- The world population is changing: For the first time there are more people over 64 than children younger than 5