ถึงไม่เปล่งเสียงแต่เราก็ได้ยิน ประมวลความหลากหลาย จากงาน VOICE OF THE VOICELESS ที่แม้ทุกคนแตกต่างแต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

“เราเป็นอาข่ามาจากเชียงราย”

“ผมนั่งรถมาจากนนทบุรี”

“พี่มาจากขอนแก่น นัดเจอเพื่อนๆ จากกลุ่มเชียงใหม่ไว้ที่นี่”

จากครรลองสายตาในห้องประชุม อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 18-19 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา มีผู้คนหลากหน้าหลายตาอยู่ในงาน เสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน : ประชากรกลุ่มเฉพาะ ครั้งที่ Voice of the voiceless ไม่ต่ำกว่า 4,000 คนตลอด 2 วันที่จัดงานนี้

งาน Voice of the voiceless ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพประชากรกลุ่มเฉพาะ เน้นเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากการปฏิบัติงานจริง มุ่งให้เกิดการพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่าย ข้อเสนอเชิงนโยบาย และระบบกลไกเพื่อขับเคลื่อนงานลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพในประชากรกลุ่มเฉพาะ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ภายในงานนอกจากมีการจัดประชุมวิชาการ และแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ สิ่งที่สะท้อนชัดกว่านั้นคือการได้มาเจอหน้าเจอตาภาคี และผู้ทำงานตัวจริง เสียงจริงของประชากรกลุ่มเฉพาะครบทั้ง 9 กลุ่ม ดังนั้นแล้วผู้คนภายในจึงไม่ได้มีแค่นักวิชาการ ถือกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ ใส่สูทดำผูกไทด์แบบงานวิชาการส่วนใหญ่ที่พบเจอ

แต่งาน Voice of the voiceless ครั้งที่ 3 มีทั้งพี่น้อง ‘กลุ่มชาติพันธุ์’ อาข่าจากจังหวัดเชียงรายแต่งชุด ‘อุโลอาข่า’ แบบเต็มยศเดินกันเป็นกลุ่มๆ พร้อมถุง ‘ยอดใบชา’ ของดีประจำตัวที่อยากเอามาอวดภายในงานว่าชาติพันธุ์ในพื้นที่เชียงรายทำอาชีพอะไรเป็นหลัก

ฝั่งซ้ายมือเราได้เจอกลุ่มไรเดอร์เสื้อหลากสี ทั้งเสื้อสีเขียว สีส้ม สีเขียวอ่อน รวมตัวกันโดยไม่แบ่งค่ายเพื่อมาแสดงความเข็มแข็งของ ‘สมาคมไรเดอร์’ ทุกภูมิภาค

มองตรงไปเราจะได้เห็นผู้คนแต่งชุดมุสลิมหลากประเภทที่ ‘มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย’ เตรียมมาให้ผู้เข้าร่วมงานลองสวมใส่เพื่อเข้าใจและเข้าถึงวิธีการแต่งกายตามหลักศาสนาอิสลาม

ตรงพื้นที่โล่งหน้าทางเข้าตรงป้าย VOICE ก็จะได้เจอพี่ๆ ‘คนพิการ’ ด้านร่างกายนั่งวีลแชร์รวมกันนั่งล้อมเป็นวงกลมขนาดย่อมเพื่อหันหน้าพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกันและกัน

บริเวณหน้าห้องประชุม นอกจากผู้รอเข้าร่วมฟังประชุมวิชาการ เรายังได้เจอ ‘กลุ่มคนไร้บ้าน’ จากขอนแก่น เชียงใหม่ และพื้นที่อื่นๆ รวมตัวกันเพื่อเตรียมตัวแสดงละครเวทีในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

รวมถึงเราจะได้ยินเสียงโห่ฮิ้ว พร้อมจังหวะตีกลองยาวเร้าใจจากขบวนสมรสเท่าเทียมของกลุ่ม ‘ผู้มีความหลากหลายทางเพศ’ ที่มาร่วมเป็นสีสัน ออกบูธร่วมกับกลุ่ม MOvED – เครือข่ายประชาชนขจัดการเลือกปฎิบัติ

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายที่ได้พบเจอในงาน Voice of the voiceless ครั้งที่ 3 ที่แม้ว่าจะมีสีสันหลากเฉดให้เราเลือกโฟกัส มีหลายความแตกต่างให้เราหันไปเหลียวมอง แต่สิ่งที่ทุกคนในงานมีเหมือนกันคือสิทธิ และเสียงที่ต้องการความเป็นธรรมทางสุขภาพ เข้าถึงสิทธิสวัสดิการที่เท่าเทียม

ภพต์ เทภาสิต จากสมาคมคนพิการนนทบุรี บอกกับเราว่า

“การรวมกลุ่มทำให้เกิดพลัง ไม่ว่าการทำงานอะไรมันต้องมีพลังรวมกลุ่มเยอะๆ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำงานในประเด็นที่เกิดขึ้นกับส่วนรวม เช่น คนพิการถ้าเรามีกลุ่มผู้สูงอายุเข้าร่วมเราจะมีพลังร่วมอีกเยอะเลย เราจะมีพลังในการเรียกร้องสิทธิ และความเสมอภาคได้มากขึ้น”

เราไม่อาจได้ยินเสียงทุกคนที่มางาน แต่เราเชื่อว่าเสียงแห่งพลังของประชากรทั้ง 9 กลุ่มชัดเจนผ่านจุดยืนด้านสุขภาวะในชีวิตที่ดังขั้น และรับรู้ได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เปล่งเสียงออกมาก็ตาม

Shares:
QR Code :
QR Code