ฮาลาล VS ฮารอม : เข้าใจวิถีของชาวมุสลิมที่ไม่ได้มีแค่ฮาลาล แต่ยังมี ‘ฮารอม’ สิ่งที่ต้องห้ามอีกด้วย

หลายคนคงเคยเห็นคำว่า ‘ฮาลาล’ อยู่ตามร้านอาหาร ขนม หรืออาหารที่กินอยู่บ่อยๆ แต่รู้ไหมว่าคำนี้คืออะไร?

คำว่า “ฮาลาล”มาจากภาษาอาหรับที่แปลว่า ‘อนุมัติ’ ซึ่งหมายถึงสิ่งที่อนุมัติตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลามนั่นเอง แต่นอกจากนี้ยังมีคำตรงกันข้ามที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเท่าไหร่ นั่นก็คือคำว่า ‘ฮารอม’ ที่หมายถึง ‘สิ่งที่ศาสนาห้าม’

เนื่องจากชาวมุสลิมมีวิถีชีวิตที่ยึดโยงกับอัลเลาะห์และศาสนทูตของพระองค์ จึงทำให้การดำเนินชีวิตที่เป็นไปตามหลักศาสนา เพราะชาวมุสลิมมีความศรัทธาว่าสิ่งที่อัลเลาะห์อนุมัติหรืออนุญาตให้ทำคือสิ่งที่ดี ส่วนสิ่งที่ห้ามหรือสิ่งที่เป็นโทษคือสิ่งที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับชีวิต ซึ่งในบางข้อก็มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนต่างศาสนิกเช่นเดียวกัน

“สิ่งที่ฮาลาลนั้นเป็นที่เพียงพอสำหรับความจำเป็น แต่สิ่งที่ฮารอมนั้นเป็นที่เกินความต้องการ”

ชาวมุสลิมมีความเชื่อว่าศาสนาอิสลามได้จัดเตรียมทางออกที่ดีและสะดวกไว้ให้กับมนุษย์แล้ว เพราะอัลเลาะห์มีความปรารถนาที่จะสร้างความเรียบง่าย ความดี และความเมตตาให้สำหรับมนุษย์

แม้ว่าศาสนาอิสลามจะเข้มงวดในสิ่งที่ฮารอม แต่ในยามที่มุสลิมตกอยู่ในสภาวะจำเป็น ศาสนาอิสลามก็ได้อนุญาตให้มุสลิมกินอาหารที่ต้องห้ามได้ในจำนวนที่เพียงพอเพื่อให้ตัวเองสามารถประทังชีวิตอยู่ได้ ดังที่อัลเลาะห์กล่าวว่า

“…ถ้าหากผู้ใดตกอยู่ที่คับขัน มิใช่เจตนาขัดขืนและไม่ใช่ละเมิด ดังนั้นไม่มีบาปแก่เขา แท้จริง อัลเลาะห์ เป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ” (กุรอาน 2:173)

ความเมตตาคือหนึ่งสิ่งที่ชาวมุสลิมยึดถือพร้อมกัน เห็นได้จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่มีหมาติดอยู่ในบ้านแต่เจ้าของไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ แต่ก็มีเพื่อนบ้านที่เป็นชาวมุสลิมร่วมมือกับมัสยิดในหมู่บ้านออกมาช่วยเหลือหมาตัวนี้ให้รอดปลอดภัย

นอกจากมนุษย์ที่ได้รับความเดือดร้อนแล้วก็ยังมีสัตว์เลี้ยงที่โดนผลกระทบไม่แพ้กัน ถึงแม้ชาวมุสลิมจะมีความเชื่อว่าห้ามโดนน้ำลายหมา เนื่องจากมองว่าเป็นของสกปรก ถ้าสัมผัสสักครั้งต้องล้างด้วยน้ำสะอาดทั้งหมด 7 และ 1 ใน 7 ครั้งต้องเป็นน้ำดินที่สะอาดครั้งตามศาสนาบัญญติ แต่ชาวมุสลิมคนนี้ก็ยินดีที่จะแบกหมาออกมาจากบ้านด้วยตัวเอง เพราะในเวลาทุกชีวิตต่างก็มีค่าและอยู่ในยามคับขันด้วยกันทั้งนั้น

ล่าสุดมีเหตุการณ์ที่ชาวมุสลิมโดนตำหนิว่าเป็นกลุ่มคนที่เรื่องมาก จากกรณีที่ทีมกู้ภัยขอรับความช่วยเหลืออาหารสำหรับชาวมุสลิมที่ประสบภัยน้ำท่วม ฝ่ายหนึ่งมองว่าสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้คนมุสลิมไม่ควรเคร่งครัดเรื่องการกินมากนัก แต่ก็มีอีกฝ่ายหนึ่งที่น้ำถึงความสำคัญของการเคารพความเชื่อทางศาสนา ในช่วงเวลาที่ใครต่างก็มองว่ามุสลิมคือกลุ่มคนเรื่องมาก แต่กลับไม่มีใครมองเห็นเลยว่าในตอนนั้นก็ยังมีมัสยิดอื่นๆ ที่นำอาหารมาแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยโดยไม่จำกัดศาสนาอยู่ด้วยเหมือนกัน

ท้ายที่สุดแล้ว นี่คงไม่ใช่ความเยอะหรือความเรื่องมาก เพราะทุกศาสนาต่างก็มีเหตุผลและความเชื่อในการดำรงชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ในโลกของพหุวัฒนธรรมการทำความเข้าใจและให้เกียรติคนที่มีความเชื่อแตกต่างกันจึงเป็นเรื่องที่พลเมืองโลกควรทำร่วมกัน

กว่าจะมาเป็นอาหารฮาลาลได้ ทุกกระบวนการก็จะมีการจัดการตามหลักศาสนา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสัตว์ ที่จะต้องเลือกทานแต่เนื้อสัตว์ที่ได้รับการเชือดตามหลักศาสนาอิสลาม ถ้าเป็นซากสัตว์ที่ตายโดยไม่ได้มาจากฝีมือมนุษย์ เช่น โดนสัตว์ด้วยกันเองกัด กิน หรือแม้แต่เป็นฝีมือมนุษย์แต่เป็นการทุบตี รัดคอตนตายก็ถือเป็นฮารอม คู่มือแนะนำฮาลาล-ฮารอม โดย สำนักงานมาตราฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ระบุว่า อัลเลาะห์ต้องการให้มนุษย์มีความเมตตาต่อสัตว์ ไม่ควรจะทรมานสัตว์ ต้องทำให้พวกเขาจากไปด้วยวิธีที่ทรมานน้อยที่สุด

วิธีที่เชือดตามหลักฮาลาลก็คือ ผู้เชือดจะต้องเป็นคนมุสลิมและมีความเข้าใจหลักศาสนาอิสลาม โดยวิธีเชือดเริ่มจากให้กล่าวนามของอัลเลาะห์ (บิสมิลลาฮ์) ควรหันหน้าไปทาง ‘กิบลัต’ ทิศที่หันไปสู่มัสยิดศักดิ์สิทธิ์แห่งนครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จากนั้นควรเชือดให้สัตว์ตายอย่างแน่นอนก่อนที่จะนำไปทำอย่างอื่น

ข้าวหมกไก่ ซุปเนื้อ คือ เมนูที่โดดเด่นของชาวมุสลิม ซึ่งแม้แต่คนที่ไม่ใช่มุสลิมก็ยังนิยมรกินกัน นอกจากไก่กับเนื้อวัว คนมุสลิมก็ยังสามารถกินอย่างอื่นได้อีก เช่น แกะ ควาย กวาง เป็นต้น ส่วนเนื้อสัตว์ที่เป็นฮารอมคือเนื้อหมู หมา ลิง แมว สัตว์ที่มีกรงเล็บอย่าง เสือ สิงโต หมี สัตว์ที่มีพิษหรือนำโรคได้ เช่น หนู ตะขาบ แมงป่อง งู

“การห้ามสิ่งต่างๆ นั้น เนื่องมาจากความไม่บริสุทธิ์และการเป็นอันตรายของมัน”

คู่มือแนะนำฮาลาล-ฮารอมระบุไว้ ทั้งงู หนู ตะขาบ ก็คือสัตว์ที่อาจจะมีพิษและเป็นสัตว์ที่อาจมีส่วนสกปรกปนเปื้อนได้ หรืออย่างหมูที่ถูกจัดว่าเป็นฮารอมเพราะหมูกินของสกปรกและสิ่งปฏิกูล เช่น นอนคลุกอุจจาระของตัวเอง ทำให้คนมุสลิมจึงไม่กินหมู สิ่งไหนที่มีอันตรายจึงถูกจัดว่าเป็นฮารอมเพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับอันตราย

แอลกอฮอล์ถือเป็นสิ่งต้องห้ามของศาสนาอิสลาม เนื่องจากให้โทษต่อร่างกายแถมยังทำให้เกิดอาการมึนเมาอีกด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์เปล่าๆ หรือผักผลไม้ นม โยเกิร์ต ไอศกรีม ที่นำไปแปรรูปและมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก็ไม่ควรที่จะกิน

คำว่าฮาลาลก็ไม่ได้ถึงแค่อาหารอย่างเดียวแต่รวมไปถึงพฤติกรรมอื่นด้วย อย่างการแต่งกายที่เป็นฮาลาล ได้แก่ ผู้หญิงแต่งตัวมิดชิดเปิดได้แค่ใบหน้าและฝ่ามือ ส่วนผู้ชายแต่งตัวปกปิดตั้งแต่สะดือถึงหัวเข่า มีเสื้อผ้าที่สะอาดเรียบร้อย

อ้างอิง : 

 

  • คู่มือแนะนำฮาลาล-ฮารอม โดย สำนักงานมาตราฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)
  • Halarc.org
  • trueid.net
Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ระบุข้อความ