“เหมือนที่ต่อสู้มามันไม่สูญเปล่า” ต้นกล้า-อารักษ์ เทพสง เยาวชนมอแกลนบ้านทับตะวัน รุ่น 5 ในวันที่ พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ผ่านแล้ว
“ผ่านแล้วโว้ยยยยยย”
เป็นประโยคที่ ‘ต้นกล้า’ อารักษ์ เทพสง เยาวชนมอแกลนวัย 14 อยากตะโกนออกมาหลังจากรู้ว่า ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ….ผ่านแล้วเมื่อ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ก็ไม่กล้าเพราะอาย
ต่างจากพ่อ-วิทวัส เทพสง ที่ตะโกนออกมาเลยว่า “พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ผ่านแล้วโว้ย” แบบไม่อายใครแถวนั้น ตะโกนแบบที่ลูกชายบรรยายว่า พ่อตะโกนอย่างกับคนเก็บกด แม่ค้าตกใจกันเป็นแถบ
“พ่อหลุดโลกแล้ว” เอาจริงๆ ต้นกล้าก็ยิ้มและบอกว่าตัวเองดีใจไม่ต่างจากพ่อ
เพราะลูกชายก็อยากจะตะโกนด้วยประโยคเดียวกับพ่อนั่นแหละ หลังจากซึมซับและติดตามการทำงานของพ่อกับแม่ ‘หญิง’ อรวรรณ หาญทะเล มาตั้งแต่จำความได้
มอแกลนบ้านทับตะวัน-บนไร่ หรือบ้านบางสัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา คือชุมชนที่ต้นกล้าเกิด เติบโต และเห็นพ่อกับแม่ร่วมต่อสู้และขับเคลื่อนประเด็นชาติพันธุ์มาตลอด ซึ่งมอแกลนบ้านทับตะวัน คือหนึ่งในชุมชนชาติพันธุ์ต้นแบบ ที่อยู่ในโครงการจัดการฐานข้อมูล ‘สถานการณ์สุขภาวะชาติพันธุ์’ ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร สนับสนุนโดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก9) สสส.
ผลจากการที่สภาเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ อย่างท่วมท้นแล้ว ต้นกล้าบอกว่า ผลดีต่อตัวเองหลังจากนี้คืออคติที่ลดลงและใช้พื้นที่ทำมาหากินต่อไปอย่างไม่ต้องกังวลเหมือนเมื่อก่อน
“วันนี้ที่รอคอยเลยครับ อนาคตมันดูสดใสขึ้น” หลังจากที่เหมือนจะไม่ถูกนับเข้าพวกมาตลอด
1.
ต้นกล้ามีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนครั้งแรกตอน ป.4 เพราะเพื่อนล้อว่าไอ้ดำๆ
ตอนนั้น ด.ช.ต้นกล้า ใช้กำลังตอบโต้ หลังบอกเพื่อนไปแล้วว่าอย่าล้อ
“แต่มันก็ล้อต่อไม่เลิก เลยบอกว่า มึงไม่ฟังใช่มั้ย ก็ต่อยเลย”
จากนั้นต้นกล้าก็เอากบเหลาดินสอขว้างไป ซึ่งไม่รู้ว่าน็อตมันหลวม บาดเพื่อนเลือดไหล ตอนนั้นต้นกล้ารู้สึกผิดเพราะไม่ได้ตั้งใจ ครูก็พาไปนั่งปรับความเข้าใจกัน ขอโทษกัน
“แต่ใจตอนนั้นมันก็บอกว่า เค้าเริ่มก่อน เราผิดเหรอ”
กลับมาคุยกับพ่อ พ่อบอกว่าเราไม่ควรใช้วิธีการนี้ เราควรมีเหตุผล ควรไปบอกครู หรือไม่ก็มาบอกพ่อ แล้วจัดการด้วยวิธีอื่น มันจะดีกว่านี้ ทำแบบนี้มันผิด
“เราก็…แต่เค้าเริ่มก่อนนะพ่อ พ่อบอกถึงเค้าจะเริ่มก่อนแต่เราอย่าไปตอบโต้แบบนั้น มันไม่ใช่วิธีที่ถูก ให้บอกครูหรือไม่ก็บอกพ่อแล้วพ่อจะไปคุย”
อีกครั้ง ต้นกล้าพาน้องๆ ในชุมชนไปรำที่โรงเรียน ตัวเองรับหน้าที่ตีรำมะนา จบงาน เพื่อนบางคนก็เขามาล้อว่าเล่นเพลงอะไรแบบนี้ แกเป็นมอแกลนเหรอ ทำไมดำจังวะ (อีกแล้ว)
ต้นกล้าเล่าว่ารู้ว่าตัวเองเป็นมอแกลนตั้งแต่จำความได้ ตอนนั้นเด็กน้อยก็ไม่ได้รู้อะไรมาก ได้ยินยายพูดว่าเค้าไม่เหมือนพวกเรา ทั้งภาษา หน้าตา
“ผมรู้มาตลอดว่าไม่เหมือนเพื่อน ตัวเองเป็นชาติพันธุ์ แต่ก็คิดว่าทำไมต้องล้อวะ หน้าตาก็ไม่ได้แตกต่างกัน ก็เหมือนคนใต้ปกติ ต่างกันแค่ภาษา อัตลักษณ์ วัฒนธรรม พอกลับจากโรงเรียนก็เอามาถามแม่ แม่ก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนแม่ก็โดน หนักกว่าลูกด้วย โดน ปาน้ำแข็งใส่ ใช้ความรุนแรง เอาน้ำแดงมาสาด”
แต่หนนี้ต้นกล้าไม่ใช้กำลังในการแก้ปัญหาเหมือนหนก่อน กลับเดินไปหาเพื่อนที่เข้าใจ ซึ่งต้นกล้าเรียกว่า ‘เพื่อนคนไทย’ แล้วเล่าเรื่องให้ฟัง
“เค้าก็ถามว่าเป็นอะไรเหรอวะ เราก็บอกว่าโดนบุลลี่ เพื่อนก็ถามว่าใครบุลลี่ เราก็บอก เพื่อนก็บอกว่า ‘มันอาจจะยังไม่เข้าใจที่บุลลี่’ แล้วเค้าก็ไปคุยกับเพื่อนที่ไม่เข้าใจให้ จนขยายเป็นวงกว้าง ผมพยายามทำแบบนี้ให้เพื่อนเข้าใจมากขึ้นว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง”
ความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ชัดเจนทันที ต้นกล้าบอกว่า ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกันไป สุดท้ายเพื่อนที่เคยบุลลี่บางคนก็เดินเข้ามา
“เค้าบอกว่าวันนั้น ไม่รู้ว่ะ ขอโทษด้วย เราก็ ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ารู้แล้วก็โอเค”
สิ่งที่ต้นกล้าวัย ป.5 ทำในตอนนั้นเรียกว่า ‘การสื่อสาร’ โดยเริ่มจากคนที่คิดว่าจะเข้าใจเราก่อน
ทำไมถึงรู้ว่าเพื่อนคนนี้เข้าใจเรา?
“เพื่อนบอกว่า ‘มึงก็เหมือนกูแหละ ไม่เห็นแตกต่างอะไรเลย’ พูดแล้วก็เข้าใจกัน”
2.
มอแกลนคือ 1 ใน 60 กลุ่มชาติพันธุ์ในไทย หรือประมาณ 6.1 ล้านคนทั่วประเทศ
อภินันท์ ธรรมเสนา ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารสังคมและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) หนึ่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ… เคยนิยามความหมายของกลุ่มชาติพันธุ์ไว้ว่า
“ชาติพันธุ์ คือ กลุ่มชนที่สมาชิกมีลักษณะร่วมกันทางวัฒนธรรมมีรูปแบบวิถีชีวิต ระบบความเชื่อ ภาษา พิธีกรรม จารีตประเพณี และประวัติศาสตร์ร่วมกัน และที่สำคัญมีชื่อเรียกเฉพาะของกลุ่มตนเอง”
นามสกุลของแม่ต้นกล้าคือ หาญทะเล ซึ่งเป็นนามสกุลพระราชทานแก่กลุ่มชาติพันธุ์ซึ่งสะท้อนความเป็นชาวเลของมอแกลน ได้เป็นอย่างดี ทั้งที่อยู่อาศัน ความถนัด ความเชี่ยวชาญ และความผูกพันกับทะเล
1) นะทะเล : เป็นนามสกุลของชาวมอแกลนในจังหวัดพังงา เป็นนามสกุลที่ชี้ให้เห็นถึงแหล่งที่ อยู่อาศัยและที่ทำมาหากินบริเวณชายฝั่งทะเล
2) นาวารักษ์ : เป็นนามสกุลที่ใช้กันมากในกลุ่มมอแกลน อำภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา แสดงให้เห็นว่าชาวมอแกลนเชี่ยวชาญในการสร้างและดูแลรักษาเรือ
3) หาญทะเล : เป็นนามสกุลที่ใช้กันในกลุ่มชาวเลมอแกลนและอูรักลาโว้ย ทั้งในอำเภอคุระบุรี และอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา ในเกาะอาดัง และ เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล นามสกุลนี้สะท้อนให้เห็น ถึงความเชี่ยวชาญและความกล้าหาญในเรื่องเกี่ยวกับทะเล
“อูรักลาโว้ยดำน้ำลึก มอแกลนเราไม่ลึกเท่า ส่วนใหญ่เราหากินแถวชายหาด” วิทวัส เทพสง พ่อของต้นกล้าเล่าให้ฟังตอนไปร่วมทริปหลักสูตรผู้นำทักษะวัฒนธรรมโมดูล 4 โดยศูนยมานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เมื่อวันที่ 24-27 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา
สอดคล้องกับที่ต้นกล้าบอกว่าตัวเองแตกต่างจากเพื่อนๆ ตรงที่รู้เรื่องทะเล เพราะออกทะเลกับพ่อแม่ตั้งแต่ป.5
“รู้ว่าจะหาปลาได้ยังไง อยู่ตรงไหน เคยไปช่วยพ่อวางอวน เอาลอบหมึก ดูลม ดูน้ำขึ้นน้ำเป็น ลมแรง คลื่นลูกใหญ่ ก่อนเกิดพายุเราก็รู้ว่าอากาศแบบนี้ พายุมาแน่ ไม่ต้องฟังพยากรณ์อากาศ มอแกลนก็รู้นะ มันเป็นวิถีชีวิตที่สัมพันธ์กับธรรมชาติ”
ปลาข้างเหลืองที่ต้นกล้าเพิ่งกินไปวันนี้ก็เป็นเมนูปกติของที่นี่ ซึ่งมีทั้งปลาหลังแข็ง ปลาหลังเขียว ปลาข้างดำ ซึ่งเด็กหนุ่มเรียกมันว่าปลาไม่แปลก
3.
ต้นกล้ามีส่วนร่วมกับชุมชนในการทำเพจ มอแกลนพาเที่ยว ทั้งถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ทำสื่อให้คนรู้จักและอยากมาเที่ยวชุมชน ที่สำคัญคืออยากสื่อสารให้คนทั่วไปรู้จักมอแกลนมากขึ้น
“มอแกลนไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไปเลย เราเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ มีวิถี มีอัตลักษณ์แบบนี้ สีผิวก็เข้มเหมือนคนใต้ทั่วไป แต่มอแกลนผิวสีขาวก็มี เราอยู่ที่นี่มานานหลายรุ่นแล้ว”
เป็นข้อความที่ต้นกล้าอยากสื่อสารออกไปในวัย 14 ปี เพราะก่อนหน้านี้ คอมเมนต์ที่ไม่ดีต่อชาวมอแกลนส่วนใหญ่มาจากคนไกล ไม่ใช่คนใกล้ที่รู้จักกัน
“แต่คนที่ไม่รู้จักเรา พอพูดถึงชาติพันธุ์ เค้าก็จะคิดว่าสกปรก แต่จริงๆ เราสะอาดกันมากเลยนะ เราแค่มีวิถีแตกต่างเท่านั้นเอง”
อาบน้ำวันละ 2 รอบเหมือนกัน? – เราถาม
“สามรอบสี่รอบก็มี (หัวเราะ)”
จนวันนี้ วันนี้ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ฯ ผ่านสภาเรียบร้อยแล้ว ต้นกล้าบอกความรู้สึกแบบขมวดท้ายว่า เหมือนที่ต่อสู้มามันไม่สูญเปล่า
หญิง อรวรรณ หาญทะเล แม่ของต้นกล้า ที่ลูกชายบอกว่า ดีใจไม่แพ้ใครแต่ไม่ได้ตะโกนออกมา ก็เคยให้เหตุผลในการต่อสู้ไว้ว่า
“เราก็ต้องการความสุข มีคนรัก เห็นคนเป็นคน เราอยากเดินไปเก็บแร่แบบที่ไม่มียามมาไล่ หรือมีหน่วยงานมารับฟังไม่ใช่เพราะความสงสาร ยิ่งเราไม่สู้ ยิ่งเรารักสงบ เรายิ่งเป็นคนอื่น” ในการต่อสู้ผลักดันร่างพ.รบ.ฉบับนี้ จึงมีพ่อและแม่ของต้นกล้าที่คอยอยู่แถวหน้าตลอด
ส่วนต้นกล้า ในฐานะรุ่น 5 ของกลุ่มเยาวชนมอแกลนมีดี (ชื่อเต็มของกลุ่มเยาวชนมอแกลน) เขาบอกว่ายังไม่มีความฝัน แต่มีเป้าหมาย และดูเหมือนว่าเป้าหมายจะสดใสขึ้นเรื่อยๆ ในวันที่ ร่างพรบ.ฉบับนี้ ผ่านแล้ว
“ผมอยากเป็นนักธุรกิจที่มีเงิน จะได้เอามาใช้ทำงานนี้ครับ” ต้นกล้าหมายถึงมอแกลนพาเที่ยว