เมื่อโควิดติดได้ทุกคนทุกวัย จะทำอย่างไรให้“เด็กไร้สัญชาติ”เข้าถึงวัคซีน ?

เมื่อโควิดติดได้ทุกคนทุกวัย จะทำอย่างไรให้“เด็กไร้สัญชาติ”เข้าถึงวัคซีน?

เมื่อโควิดติดได้ทุกคนทุกวัย จะทำอย่างไรให้“เด็กไร้สัญชาติ”เข้าถึงวัคซีน?

.
ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาหลาย ๆ สถาบันการศึกษาเริ่มมีการเปิดเทอมแบบออนไซต์ หรือการกลับมาเรียนที่โรงเรียนกันตามปกติ หลังจากการระบาดของ โควิด-19 ทำให้ต้องมีการเว้นระยะห่าง และปรับให้เป็นการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ ส่วนหนึ่งที่สามารถทำให้กลับมาเปิดเทอมปกติได้ก็เพราะวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่เริ่มมีการระดมฉีดให้กับเด็กและเยาวชนไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
.
แต่โควิดเองเป็นโรคระบาดที่ติดง่ายแพร่ไว โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนที่มีอัตราระบาดที่สูงมาก และถ้าหากไม่ได้รับวัคซีนก็มีความอันตรายถึงชีวิต ดังนั้น ปัญหาก็คือ “คนแต่ละกลุ่มเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมกันหรือไม่?” ประเด็นนี้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ หรือ UNHCR แสดงความกังวลว่าบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวนมากทั่วโลกอาจจะถูกกีดกันการเข้าถึงวัคซีน เนื่องจากไม่มีสถานะพลเมืองหรือไม่มีเอกสารแสดงตัวตน
.
โดยนาย จิลเลียนส์ ทริกก์ ผู้อำนวยการฝ่ายความคุ้มครองระหว่างประเทศของ UNHCR กล่าวว่า “การที่บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติกว่าล้านคนทั่วโลกไม่ได้ถือสัญชาติของประเทศใดๆ นับว่าถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเขายังจะถูกกีดกันไม่ให้เข้าถึงวัคซีนเพื่อป้องกันและรักษาชีวิตของพวกเขาอีก” เพราะโควิดนั้นเป็นโรคระบาดที่ติดได้ในทุกกลุ่มทุกเพศและทุกวัย
.
น่าสนใจว่าในขณะที่โควิดไม่เลือกคนที่จะติด แต่วัคซีนนั้นเป็นสิ่งที่เลือกการเข้าถึงโดยรัฐเป็นผู้กำหนด เกณฑ์การให้วัคซีนเกี่ยวกับบุคคลไร้สัญชาติในประเทศไทยนั้นแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ประเภทแรกคือ “กลุ่มมีเลขประจำตัว 13 หลัก”ที่ออกให้โดยหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งต้องเพิ่มข้อมูลกลุ่มเป้าหมายใน white list แล้วถึงมีสิทธิ์จองคิวเพื่อนัดหมาย จนได้คิวฉีดวัคซีน ซึ่งถือว่ามีความยุ่งยากในระดับหนึ่ง
.
แต่กลุ่มที่ 2 นั้นมีขั้นตอนที่ยาวนานซับซ้อนกว่าคือกลุ่มที่ ”ไม่เคยมีหมายเลขประจำตัวที่ภาครัฐออกให้” โดยกลุ่มที่มีพาสปอร์ตต้องเอาพาสปอร์ไปลงทะเบียนเพื่อให้ระบบออกเลข 13 หลักให้ แล้วต้องไปจัดเก็บข้อมูลทะเบียนประชากรต่างด้าวที่โรงพยาบาลที่จะฉีดวัคซีน จากนั้นจึงไปขึ้นเป็นเพิ่มข้อมูลกลุ่มเป้าหมายใน white list แล้วถึงมีสิทธิ์จองคิวเพื่อนัดหมาย จนได้คิวฉีดวัคซีน และถ้าเป็นกลุ่มไม่มีพาสปอร์ตต้องใช้ “เลขประจำตัวผู้ป่วยนอก” หรือ HN. ลงทะเบียนก่อนจะออกเลข 13 หลักเพิ่มอีกขั้นตอน

คุณ กิ่งแก้ว จั๋นติ๊บ ประธานหน่วยรับเรื่องร้องเรียนเครือข่ายชาติพันธุ์ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า แม้ระบบสุขภาพไทยจะมีหลักการที่ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพได้ แต่จากข้อเท็จจริงที่ผ่านมายังพบว่ามีพี่น้องชนเผ่าพื้นเมืองและกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนกว่า 5 แสนคนที่ยังไม่มีสัญชาติ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงระบบสุขภาพอย่างเป็นธรรมได้ หรือแม้จะมีสัญชาติแล้วก็ตาม ก็จะยังมีเงื่อนไขข้อจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถเข้ารับบริการได้
.
ซึ่งความซับซ้อนของระบบนั้นในผู้ใหญ่ยังพอสามารถดำเนินการด้วยตัวเองได้แต่ระดับเด็กเยาวชนนั้นจะต้องพึ่งพาผู้ปกครองในการดำเนินการ เรื่องนี้ สุมิตร วอพะพอ ผู้จัดการโครงการสถานะบุคคลองค์กรแปลนเคยแสดงความเป็นห่วงว่า “กลุ่มเปราะบางอย่างเด็กที่ไม่มีเลข 13 หลัก เข้าไม่ถึงการศึกษา คนพิการไร้สัญชาติ ผู้ป่วยติดเตียงไร้รัฐ เข้าถึงวัคซีนลำบากจะเข้าถึงอย่างไร”
.
เพราะปรกติแล้วการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา และโอกาสทางการเลือกเด็กไร้สัญชาติมีน้อยกว่ากลุ่มเด็กทั่วไปแล้ว อย่าให้พวกเขามีโอกาสเลือกที่จะเข้าถึงวัคซีนน้อยกว่าเด็กปกติเลย เพราะโควิดไม่สามารถหยุดการระบาดได้เพียงเพราะคนกลุ่มหนึ่งได้วัคซีน แต่อีกกลุ่มไม่ได้ทั้งที่อยู่ในสังคมเดียวกัน โรงเรียนเดียวกันและพื้นที่เดียวกัน
.
#โควิด19  #คนไร้สัญชาติ 

 

เเหล่งที่มา   https://www.facebook.com/curiouspeople.me

Shares:
QR Code :
QR Code