อีกไกลแค่ไหน การจ้างงานคนพิการไทยจะเป็นเรื่องปกติในสังคม
อีกไกลแค่ไหน การจ้างงานคนพิการไทยจะเป็นเรื่องปกติในสังคม
.
1 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันแรงงานที่จะรำลึกถึงหยาดเหงื่อทุกหยดที่ร่วมสร้างโลกใบนี้ ในทุกๆปีกลุ่มผู้ใช้แรงงานจะได้รวมตัวแสดงพลังเพื่อนำเสนอข้อเรียกร้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าจ้างที่เป็นธรรม สภาพการจ้างงานที่เหมาะสม รวมไปถึงสวัสดิการที่เข้ากับยุคสมัย แต่มีกลุ่มแรงงานกลุ่มหนึ่งที่เสียงของพวกเขาควรได้รับการรับฟัง
.
“แรงงานคนพิการ” ในองค์กรเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่ร่วมสร้างผลผลิต เมื่อมกราคมที่ผ่านมาห้กรมการจัดหางาน (กกจ.) จัดทำโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ประเภทจ้างเหมาบริการ เพื่อเชิญชวนนายจ้าง/สถานประกอบการที่ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 ให้สิทธิแก่คนพิการ หรือผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35 โดยจ้างงานคนพิการเป็นพนักงานเพื่อปฏิบัติงานสนับสนุน ในหน่วยบริการสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ใกล้บ้าน มีเป้าหมายการจ้างงานคนพิการเชิงสังคมปี 2565 จำนวน 1,000 คน และเตรียมขยายการมีงานทำให้คนพิการ มีงานและรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 20% ภายใน 4 ปี
.
ในขณะเดียวกันกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับมูลนิธิออทิสติกไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เปิดตัวโครงการสนับสนุนการจ้างงาน สร้างอาชีพ สำหรับคนพิการ โดยสสส.เองมองไปถึงยังการสร้างศักยภาพของแรงงานคนพิการให้สามารถพัฒนาทักษะไปอีกขั้น
.
นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผอ.สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า สสส.ร่วมกับมูลนิธิออทิสติกไทย พัฒนาโปรแกรมสนับสนุนการมีงานทำเพื่อประเมินอาชีพด้วยการสอนงานให้คนพิการ 2 กลุ่มอาชีพ ได้แก่ 1.อาชีพอิสระ เช่น งานศิลปะ และการจัดทำ E-Book และ 2.อาชีพในหน่วยงาน เช่น การใช้เทคโนโลยีทำงาน การฝึกทักษะและสมรรถนะทางสังคม ทำให้คนพิการมีทักษะอาชีพที่เหมาะสม มีงานทำ มีรายได้ เป็นต้น.
.
ในช่วงการระบาดของโควิดที่ผ่านมา เกิดปัญหาการจ้างงานในกลุ่มคนพิการผู้ประกอบการภายใต้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้หารือร่วมกับคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน ในประเด็นการ “ขาดแคลน” แรงงานคนพิการที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
เนื่องจากพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต พ.ศ. 2550 คือ “ต้องจ้าง” จำนวนคนพิการที่มีคุณสมบัติตรงตามกฎหมายกำหนดที่ 1 : 100 นั้นแต่เมื่อพิจารณาจากข้อมูลสถิติจำนวนคนพิการที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้คือคนพิการที่ได้รับการจ้างงานตามมาตรา 33 เพียง 39,878 คน คิดเป็น 45.79% ของจำนวนแรงงานคนพิการที่ต้องถูกจ้างทั้งหมดทั่วประเทศที่ 86,757 คนเท่านั้น
.
ปัญหาแท้จริงนอกจากจำนวนคนพิการที่มีทักษะสอดคล้องกับงานที่รองรับมีไม่เพียงพอแล้ว ในประเด็นอื่นๆก็มาจากปัญหาเรื่องต้นทุนค่าใช้จ่ายที่จะต้องปรับสถานประกอบการให้เหมาะสมกับคนพิการ ไม่ว่าจะเป็น ที่จอดรถสำหรับคนพิการ ห้องสุขาสำหรับคนพิการ หรือทางลาดสำหรับรถเข็นภายในสถานประกอบการณ์อีกด้วย ทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนเลือกที่จะส่งเงินสมทบแทนการจ้างงานคนพิการ
.
ในปัจจุบันเราจำเป็นต้องมองการจ้างงานคนพิการให้ไกลกว่า CSR ของทางหลายบริษัทที่นำมาเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ แต่เป็นการยกระดับฝีมือแรงงานให้เทียบเท่ากับคนทำงานทั่วไป และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มีทั้งหลักสูตรพัฒนาฝีมือแรงงานและการประกวดฝีมือแรงงาน เพื่อทำให้เห็นว่าแรงงานคนพิการไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร และพวกเขาพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประเทศไทยไปด้วยกัน
.
#วันแรงงาน #แรงงานคนพิการ
เเหล่งที่มา https://www.facebook.com/curiouspeople.me